ที่หอการค้าไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 31 พ.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และคณะ ได้เดินทางเข้าพบและหารือกับหอการค้าไทย หอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย และนักธุรกิจรุ่นใหม่ของหอการค้าไทย โดยมี นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมคณะให้การต้อนรับ โดยหอการค้าไทย ได้เสนอประเด็นต่างๆ ด้านเศรษฐกิจในการหารือถึง 13 ประเด็น ซี่งภายหลังการหารือกันนานสองชั่วโมงครึ่ง โดยนายสนั่น และนายพิธา ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดนายสนั่น กล่าวว่า เป็นการพบปะที่สร้างสรรค์ และสบายใจเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน และมีหลายเรื่องที่เห็นใจพรรคก้าวไกลที่จะต้องทำงานร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ สำหรับประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 450 บาทนั้น มีการพูดคุยกันมากพอสมควร และทั้ง 2 ฝ่ายมีข้อมูลแทบไม่ต่างกันมาก ซึ่งหอการค้าไทยเห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรง เพียงแต่จังหวะและอัตราการขึ้นต้องเหมาะสม และต้องคุยกันในรายละเอียดให้มากขึ้น
“ในที่ประชุมวันนี้ ยังไม่ได้ฟันธงว่า นโยบายการขึ้นค่าแรงภายใน 100 วัน จะเริ่มต้นนับหนึ่งในวันไหน ขณะนี้ ยังมีเวลา ต้องมีการตั้งทีมจับเข่าคุยกันในรายละเอียดต่อ หากปรับขึ้นทันทีจะเป็นการกระชาก ซึ่งอาจมีปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจได้ การประชุมวันนี้คุยกันด้วยเหตุและผล มีข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ ไม่ใช่ความรู้สึก”
อย่างไรก็ตาม การขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 450 บาท ถ้าเราสื่อสารกับสาธารณะอย่างไม่เข้าใจ ทำให้ทุกคนโต้แย้งได้ เรื่องสำคัญสุดต้องหารือรายละเอียดในเชิงลึก เพราะเป็นเรื่องอ่อนไหวมาก ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำ มีกลไกไตรภาคีจากภาครัฐ ภาคเอกชน และแรงงานของแต่ละจังหวัดอยู่แล้ว พรรคก้าวไกลคงต้องฟังเสียงจากประชาชน และสิ่งเหล่านี้คงต้องคุยกัน ส่วนการขึ้นค่าแรงล่าสุดเมื่อเดือน ต.คคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 65 ประมาณ 5% แต่อัตราเงินเฟ้อของไทยเพิ่มขึ้นถึง 8% ถือว่าเป็นภาวะผิดปกติมาก เพราะไม่มีคิดว่าจะเกิดสงครามจนทำให้ราคาพลังงานแพง และดอกเบี้ยขึ้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดีที่วันนี้หอการค้าไทยได้คุยกับพรรคก้าวไกล ซึ่งทำให้เห็นว่า เรามีจุดยืนเดียวกันที่จะทำให้แรงงานอยู่ได้คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายสนั่น กล่าวอีกว่า หอการค้าไทยได้เสนอประเด็นเร่งด่วนที่รัฐบาลใหม่จะต้องเร่งดำเนินการ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.การเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้เสร็จสิ้นเร็วสุด และทุกคนพร้อมสนับสนุน ซึ่งพรรคก้าวไกลได้เสียงมากสุด ต้องปล่อยให้จัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้การจัดทำนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรงบประมาณมีความต่อเนื่อง สร้างความเชื่อมั่นให้กับเศรษฐกิจประเทศ 2.การเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของประเทศ การอำนวยความสะดวกในการลงทุน มีความขัดเจนในเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ การบริหารจัดการโครงสร้างพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ที่กระทบต่อค่าครองชีพประชาชน 3.เสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้ประกอบการ และเอสเอ็มอี โดยต้องทำให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำได้ง่ายขึ้น