เมื่อวันที่ 25 ส.ค. นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า สมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย 7 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชีย, ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์, บางกอกแอร์เวย์ส, นกแอร์, ไทยสมายล์, ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ท เตรียมขอเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อแสดงความยินดี พร้อมรับฟังนโยบาย และให้ข้อเสนอแนะถึงรัฐบาลใหม่ในการผลักดันนโยบาย เพื่อฟื้นธุรกิจการท่องเที่ยว เเละการบินได้อย่างต่อเนื่องคำพูดจาก ทดลองสล็อต ใหม่ล่าสุด
นายสันติสุข กล่าวต่อว่า สำหรับข้อเสนอแนะและมาตรการที่อยากให้รัฐบาลช่วยเร่งดำเนินการช่วยเหลือ อาทิ 1.การเก็บภาษีภาษีสรรพสามิตน้ำมัน (excise tax) สำหรับเครื่องบินไอพ่น ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลมีมาตรการปรับลดการเก็บภาษีอยู่ที่ 0.20 บาทต่อลิตร จากอัตรา 4.70 บาทต่อลิตร และได้สิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยจากการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องพบว่า รัฐบาลรักษาการไม่สามารถพิจารณาขยายเวลาการปรับลดดังกล่าวต่อได้ เพราะมาตรการนี้จะมีผลผูกพันต่อรายได้ของรัฐบาลใหม่ จึงต้องให้รัฐบาลชุดใหม่เป็นผู้พิจารณา
“หวังว่าเรื่องการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน จะเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะช่วยเร่งพิจารณา เพราะมิฉะนั้นค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้น จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งที่สายการบินต้องบวกเพิ่มเข้าไปในราคาตั๋วโดยสาร เพื่อรักษาผลการดำเนินงานของแต่ละสายการบิน แต่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ตาม สายการบินไม่ได้หวังว่าต้องลดเหลือ 0.20 บาทเท่าเดิม แต่อย่างน้อยพบกันครึ่งทางที่ 2 บาทก็ได้” นายสันติสุข กล่าวคำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต
2. การสนับสนุนนโยบายและเเคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยต่อเนื่อง เช่น ออกเแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ลดต้นทุนการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อกระจายเศรษฐกิจให้เติบโตทั่วภูมิภาค 3.พิจารณายกเว้นเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) เป็นการชั่วคราว (ระยะเวลา 6 เดือน) ให้นักท่องเที่ยวชาวจีน เพื่อกระตุ้นให้มีการเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันมีค่าธรรมเนียม 2,000 บาทต่อคน
และ 4.การขยายสิทธิการบิน การขนส่งอากาศไทย-อินเดีย ให้สามารถเพิ่มความถี่ในการขนส่งทางอากาศในตลาดเอเชียใต้ และ 6 เมืองหลักของอินเดีย ประกอบด้วย นิวเดลี มุมไบ บังกาลอร์ โกลกาตา เชนไน ไฮเดอราบาด ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย เป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของการท่องเที่ยวไทย อย่างไรก็ตาม นายเศรษฐาเป็นคนในแวดวงธุรกิจ และเน้นมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในครึ่งปีหลังให้ดีขึ้น ซึ่งเรื่องการท่องเที่ยวถือเป็นเบอร์ 1 ที่ทำรายได้ให้ประเทศ จึงมั่นใจว่า การพัฒนาในมิติเศรษฐกิจก็ต้องมาดูแลเรื่องท่องเที่ยวด้วย ซึ่งจะเป็นทิศทางที่ถูกต้อง ในการดำเนินงานกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลังนี้.