ตลท.คาดปี 67 เงินทุนย้ายเข้าหุ้นไทย สะท้อนบาทแข็ง-ศก.ขยายตัว
บิตคอยน์คึกคัก พุ่งแรง 48,000 ดอลลาร์ หลังสหรัฐฯอนุมัติตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF
เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2567 ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ พลิกดีดตัวขึ้นเทียบสกุลเงินหลัก สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (บอนด์ยีลด์) หลังสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงนานกว่าที่คาดไว้
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือน ธ.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.2% จากระดับ 3.1% ในเดือน พ.ย.
ขณะที่เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 8,781 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,066 ล้านบาท
สำหรับกรอบค่าเงินบาทวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ
- USD/THB 34.80- 35.30 แนะนำ ทยอยซื้อที่ 34.80/ ขาย 35.30
- EUR/THB 38.20- 38.70 แนะนำ ซื้อ 38.20 / ขาย 38.70
- JPY/THB 0.2380- 0.2430 แนะนำ ซื้อ 0.2380 / ขาย 0.2430
- GBP/THB 43.40- 43.90
- AUD/THB 23.15- 23.50
นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวน โดยได้แข็งค่าขึ้น หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ทว่า เงินดอลลาร์ก็กลับมาย่อตัวลงในช่วงหลัง ตามการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 102.3 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 102.2-102.8 จุด)
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากฝั่งจีน ทั้งอัตราเงินเฟ้อ CPI และยอดการค้าระหว่างประเทศ (ยอดการส่งออกและนำเข้า) เพื่อประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาสัญญาณอัตราเงินเฟ้อ ผ่านรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต PPI และรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินของเฟด หลังตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ทั้ง การจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อในเดือนธันวาคม
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เประเมินว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทหลังรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ อาจชะลอลง และเงินบาทก็มีโอกาสแข็งค่าขึ้นต่ำกว่าระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์ ได้บ้าง หากราคาทองคำยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ ท่ามกลางความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเงินบาทอาจได้แรงหนุน คล้ายกับช่วงเกิดสงครามอิสราเอล-ฮามาส ซึ่งหนุนให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ทว่า เราประเมินว่า สถานการณ์ความขัดแย้งในรอบนี้ อาจไม่ได้น่ากังวลมากจนทำให้เกิดภาพคล้ายกับช่วงแรกของสงครามอิสราเอล-ฮามาส
ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวัน เงินบาทก็อาจยังมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าได้บ้าง หากบรรดานักลงทุนต่างชาติยังคงเดินหน้าทยอยขายสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้น ท่ามกลางบรรยากาศในตลาดการเงินที่อาจยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง
ท่ามกลางปัจจัยฝั่งแข็งค่าและอ่อนค่าดังกล่าว ทำให้มองว่า เงินบาทก็อาจเคลื่อนไหวในกรอบ sideway ใกล้ระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทก็อาจยังไม่ได้อ่อนค่าไปไกลมากนัก และยังคงประเมินโซน 35.20-35.30 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวต้านสำคัญในช่วงนี้ ขณะที่ การแข็งค่าต่อเนื่องก็อาจเกิดขึ้นได้ยาก หากไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน ทำให้โซน 34.80 บาทต่อดอลลาร์ อาจเป็นแนวรับสำคัญของเงินบาทในช่วงนี้คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เปิดสถิติหวยออกงวดวันที่ 17 มกราคม หวยวันครู ย้อนหลัง 15 ปี
มอเตอร์เวย์ M6 เปิดให้ใช้ฟรีตลอดปี 2567 เก็บค่าผ่านทางปี 2568
โปรแกรมฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023 รอบแรก นัดแรก 13 ม.ค 67